We use cookies on this website to enhance your user experience. By continuing on this website you are agreeing to the use of these cookies. View our Privacy Policy for more information.

More Than Bangkok

An Art Escape, From Bangkok to Siem Reap

words by
BAC Editorial
photography by

วันนี้เราอยากชวนไปเปลี่ยนบรรยากาศ เดินย่านเมืองเก่าชื่นชมศิลปะ สถาปัตยกรรม และหาความรู้ในพิพิธภัณฑ์ ชมความงามที่สะท้อนเชื่อมโยงไทย-กัมพูชา อารยธรรมและความยิ่งใหญ่ของอาณาจักรเขมรโบราณในยุคพระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 ถึงพระเจ้าชัยวรมันที่ 7

ร่องรอยของนครวัดและปราสาทบายน ณ เมืองเสียมเรียบอันเก่าแก่ ที่ส่งต่อมายังศิลปะสมัยลพบุรีและอยุธยายังคงถูกเก็บรักษาไว้อย่างดีที่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ พระนคร จากนั้นไปเยี่ยมชมความอลังการของคอลเล็คชั่นผ้า สิ่งทอ และฉลองพระองค์ ที่หาดูที่ไหนไม่ได้นอกจากที่พิพิธภัณฑ์ผ้า ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ตั้งอยู่บริเวณ “พระราชวังบวรสถานมงคล” หรือ “วังหน้า” สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2325 นอกจากพระที่นั่งและตำหนักเดิมของวัง วันนี้พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเปิดห้องจัดแสดงนิทรรศการใหม่ในอาคาร“ประพาสพิพิธภัณฑ์” รวบรวมงานโบราณคดีและศิลปวัตถุล้ำค่าหลังพุทธศตวรรษที่ 18 กว่า 900 ชิ้น เป็นพื้นที่แห่งความรู้ความเข้าใจพัฒนาการของอารยธรรมในประเทศไทย เรามาชมบางส่วนกันเลยนะคะ

บรรยากาศและการจัดแสดงนิทรรศการศิลปะทวารดี อารยธรรมที่ยิ่งใหญ่กระจายตัวอยู่ในหลายภูมิภาคในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ปรับปรุงใหม่ พาเราไปสัมผัสกลิ่นอายศิลปะเขมรโบราณที่ชวนให้นึกไปถึงนครวัด นครธมที่เมืองเสียมเรียบ

งานศิลปวัตถุมากมาย ให้เราเดินทางย้อนอดีตสู่สุนทรียะจากอารยธรรมเขมร ศิลปวัตถุโบราณกำลังเล่าเรื่องราวของผู้คนและความเชื่อจากอดีตกาล

ศิลปวัตถุอันทรงคุณค่าที่นำมาจัดแสดงในระดับสายตา ให้เราได้ใกล้ชิดกับวัตถุโบราณอย่างเต็มที่ เป็นความพิเศษอย่างยิ่งที่หาไม่ได้แม้แต่ที่นครวัดเอง

ทับหลังสลักภาพพระวิษณุอนันตศายินปัทมนาภะ (ภาพนารายณ์บรรทมสินธุ์) เป็นศิลปะเขมรแบบนครวัด สมัยพุทธศตวรรษ 17 เป็นชิ้นส่วนทางสถาปัตยกรรมที่อยู่เหนือกรอบประตูเทวสถานในปราสาทหินนครวัด สำหรับทับหลังชิ้นนี้ พบที่ปราสาทกู่สวนแตง จังหวัดบุรีรัมย์ ในประเทศไทย สลักเป็นภาพนารายณ์บรรทมสินธุ์เหนือหลังพระยาอนันตนาคราชท่ามกลางเกษียรสมุทร มีดอกบัวผุดจากพระนาภี เป็นการเล่าเรื่องการสร้างโลกตามความเชื่อจากคัมภีร์ศาสนาพราหมณ์ - ฮินดู

แผ่นศิลาจารึกศรีจนาศะ จารึกอักษรขอมโบราณ ภาษาสันสกฤต ตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 15 จะเห็นว่าภาษาทั้งสองเป็นรากฐานของภาษาชั้นสูงและภาษาราชการของภาษาไทยในปัจจุบัน ประวัติศาสตร์ทางภาษาที่ทำให้คิดไปถึงหลักศิลาจารึกสมัยพ่อขุนรามฯ ที่เริ่มจารึกด้วยภาษาไทยโบราณตั้งแต่ พ.ศ. 1826 แต่ถูกค้นพบในปี พ.ศ. 2376 ในรัชสมัยของรัชกาลที่ 3 โดยรัชกาลที่ 4 ขณะยังคงผนวช  จารึกเหล่านี้ทำให้เราได้เห็นว่า ผู้คนส่งต่อภูมิปัญญาและความรู้กันอย่างไร้พรมแดน ความเชื่อมโยงของอารยธรรมเขมรโบราณในอักษรไทยก็เป็นประจักษ์พยานหนึ่งที่เห็นได้ชัด

รูปสลักเทวสตรี เป็นศิลปะแบบลพบุรี สร้างในพุทธศตวรรษที่ 16 จากปราสาทหินพนมรุ้ง จังหวัดบุรีรัมย์ แสดงถึงการแต่งกายด้วยผ้านุ่งยาวเว้าต่ำ มีริ้วทั้งผืน และมีชายเป็นรูปหางปลา คาดเข็มขัดผ้าแถบกว้าง ตามประเพณีนิยมศิลปะแบบ “บาปวน”

ซึ่งมีลักษณะเดียวกันกับรูปสลักนางอัปสรา นางฟ้าหรือเทพธิดาผู้รับใช้ที่คอยดูแลศาสนสถานทีจะมีให้เห็นมากมายรายรอบปราสาทหินต่าง ๆ ในกรุงเสียมเรียบ หากจะมีเพียงหนึ่งเดียวที่ยิ้มเห็นฟัน ซึ่งสันนิษฐานว่าเกิดจากอารมณ์ขันของช่างสลัก เป็นเสน่ห์ให้คุณค้นหาเวลาไปเที่ยวนครวัด

จากภาพสลักเครื่องนุ่งห่มโบราณสุดวิจิตร มาต่อกันที่การสร้างสรรค์ร่วมสมัยจากภูมิปัญญาต้นตำรับสู่งานฝีมือชั้นสูง เราเดินลัดเลาะไปยังหอรัษฎากรพิพัฒน์ ในพระบรมมหาราชวังสู่ “พิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ” ซึ่งสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง มีพระราชดำริให้จัดตั้งพิพิธภัณฑ์ผ้าฯ ขึ้นเพื่อเป็นแหล่งศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับผ้าไทยและประวัติศาสตร์เครื่องแต่งกายของคนไทย ที่เปิดให้เข้าชมมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2555

ภายในพื้นที่ของอาคารอิตาเลียนสีขาวสะดุดตา มีนิทรรศการฉลองพระองค์ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ภายใต้ชื่องาน “สิริราชพัสตราบรมราชินีนาถ” แสดงผลงานสร้างสรรค์จากผืนผ้าหัตถศิลป์อันทรงคุณค่าของราชสำนักและผ้าพื้นเมืองต่าง ๆ เราจะได้เห็นถึงวิวัฒนาการการใช้ผ้ามาสร้างงานเครื่องทรงชั้นสูงในแบบร่วมสมัย

โดยเครื่องแต่งกายและผ้าที่นำมาจัดแสดงนั้นจะจัดเป็นนิทรรศการหมุนเวียน โดยในปี 2566 นี้เราจะได้มีโอกาสชม นิทรรศการผ้าบาติกในพระปิยมหาราช: สายสัมพันธ์สยามและชวา (A Royal Treasure: The Javanese Batik Collection of King Chulalongkorn of Siam) เพื่อระลึกถึงพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ในการเสด็จเยือนชวาทั้ง 3 ครั้ง

การจัดแสดงผ้าบาติกสะสม ซึ่งเป็นคอลเลคชั่นที่พิเศษและหาดูได้ยาก

นอกจากจะเป็นสถานที่รวบรวมจัดเก็บรักษาผ้าไทย เพื่อสืบสานพระราชปณิธานในการอนุรักษ์การทอผ้าของไทยให้คงอยู่เป็นสมบัติทางวัฒนธรรมแล้ว ที่นี่ถือว่าเป็นจุดเช็กอินหนึ่งที่ควรจะมาชม ผู้ชมทุกวัยสามารถเรียนรู้ถึงนัยยะของผ้า กระบวนการผลิต จัดเก็บ การอนุรักษ์ ผ่านนิทรรศการที่ออกแบบอย่างปราณีตเพื่อเปิดประสบการณ์อันน่าทึ่งผ่าน “ผ้า”

และเราสามารถสืบค้น ศิลปะวิทยาการแห่งปัก ถัก ทอ ได้แล้วที่ห้องสมุดของพิพิธภัณฑ์ ซึ่งปรับโฉมใหม่ให้เราได้ดำดิ่งไปกับโลกของหนังสือเกี่ยวกับผ้าและสิ่งทอ เป็นอีกสถานที่แสนสวยที่ไม่ควรพลาดที่สุด

พิพิธภัณฑ์ทั้ง 2 ที่เราเชิญชวนให้คุณสัมผัสและเรียนรู้นั้น ล้วนแสดงให้เห็นถึงศิลปะชั้นสูงที่ทรงคุณค่า บางทีการเดินเที่ยวครั้งนี้อาจจุดประกายให้อยากเดินทาง เพียงใช้เวลาบินแค่ 1.15 ช.ม. จากกรุงเทพฯ คุณก็สามารถมาถึงดินแดนแห่งอารยธรรมอันยิ่งใหญ่และรุ่งเรืองในอดีตอย่าง "เสียมเรียบ" ได้ด้วยความสะดวกสบาย

Photography: Chanut Husbumrer/The Royal Photographic Society Thailand (RPST)/FYI Bangkok/Paul Szewczyk
Graphic: Chanut Husbumrer

BAC principal supporter
OE logoAriseHealth logo