DREAMCATCHER หรือ ตาข่ายดักฝัน ในการรับรู้โดยทั่วไปมักสื่อความหมายเป็นเครื่องป้องกันฝันร้ายในยามหลับใหล แต่ในโลกของความเป็นจริงเราไม่อาจหนีเรื่องราวร้ายๆ ในชีวิตได้เพราะชีวิตมีทั้ง ฝันดี และ ฝันร้าย แต่ในช่วงเวลาที่เผชิญกับเรื่องดีและเรื่องร้ายเหล่านั้น เราอาจเห็นบทเรียน แง่คิด ความหวัง และอื่น ๆ อีกมากมายปะปนอยู่ นิทรรศการนี้จึงก่อตัวมาจากมุมมองเหล่านั้น ผ่านการถ่ายทอดของ 2 ศิลปิน ที่เฝ้ามอง ฝันดี และ ฝันร้ายนี้ ในสังคมปัจจุบัน
การเดินทางสู่ความฝัน, ความหวังสู่เส้นทางฝัน, ตื่นเผื่อฝัน, แดนฝัน
หากชีวิตเปรียบเสมือนการเดินทาง ในระหว่างทางมักมีความปรารถนามากมายเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ล้วนแต่เป็นภาพหวังให้เกิดขึ้น บ้างสามารถเกิดขึ้นจริง บ้างเป็นเพียงความปรารถนาที่ยังไม่เกิดขึ้น และอาจไม่มีวันเกิดขึ้น มันดูเลือนรางเหมือนความฝัน มันผันผวนไปตามบริบทของชีวิต ข้อจำกัดเหล่านี้ที่แตกต่างกัน ทำให้ความฝันไม่อาจเกิดขึ้นจริงได้โดยง่าย แต่ไม่ว่าฝันนั้นจะคืออะไรหรือจะเกิดขึ้นหรือไม่ก็ตาม มันยังคงเป็นความปรารถนาเล็กๆ อยู่ในใจอยู่ดี นิทรรศการนี้จึงอยากเชิญชวนทุกท่านร่วมเดินทางสู่ความฝันของตัวเองอีกครั้ง เผื่อไตร่ตรองมองดูฝันดีและฝันร้ายของตัวเอง เพราะความปรารถนาเป็นส่วนหนึ่งของการมีชีวิต เชื่อมโยงไปสู่วันข้างหน้า ความหวัง ความจริง และความฝันที่เป็นจริงจะส่งต่อพลังงานในการใช้ชีวิตให้เราได้พบเจอกับฝันใหม่ๆ และทำมันให้สำเร็จ นำพาเราไปสู่ดินแดนใหม่ ดินแดนที่มองจากตรงนี้ มันยังคงเป็นภาพฝันที่เลือนราง แต่ลึกๆมันยังมีความหวังซึ่งจะนำไปสู่ความฝัน ที่เรายังคงปรารถนาที่ไปถึง
information provided by event organizer
MORE LIKE THIS