ÉCHO du SILENCE

เสียงสะท้อนของความเงียบ

นิทรรศการเดี่ยวโดย ณัฐธัญ กองมะลิกันแก้ว

"...ความลึกลับ การซ่อนเร้น สิ่งที่ก่อให้เกิดความคลุมเครือชวนปลุกเร้าอารมณ์สงสัยใคร่รู้ของมนุษย์ แต่ขณะเดียวกันก็เคลือบแฝงไปด้วยความรู้สึกหวาดหวั่นต่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้าด้วยความไม่รู้เช่นกัน เปรียบเสมือนการต้องเผชิญกับสถานการณ์ซับซ้อนละเอียดอ่อนที่ยากต่อการตัดสินใจและต้องพยายามประคับประคองความรู้สึกของตัวเองไปด้วยในคราวเดียว ..."

ถ้อยคำศิลปิน ณัฐธัญ กองมะลิกันแก้ว

นิทรรศการ “ÉCHO du SILENCE: เสียงสะท้อนของความเงียบ” โดย ณัฐธัญ กองมะลิกันแก้ว ครั้งนี้ เชิญชวนให้ผู้ชมก้าวเข้าสู่ "ภูมิทัศน์ทางจิตวิญญาณ" อันลึกลับ ที่ซึ่งความจริงภายนอกและโลกภายในจิตใจมนุษย์มาบรรจบกัน ณัฐธัญนำเสนอผลงานจิตรกรรมที่ทลายเส้นขอบเขตความเป็นจริง ผ่านสภาวะอารมณ์ที่ซับซ้อนของการเผชิญหน้ากับสิ่งที่ไม่รู้และความไม่แน่นอนในชีวิต

อีกความสำคัญของงานชุดนี้คือการเปลี่ยนผ่านอย่างมีนัยยะที่น่าสนใจ จากที่ศิลปินใช้ภาพร่างกายมนุษย์เป็นศูนย์กลางของความเจ็บปวดและการถูกกักขัง (ในผลงานช่วงปี พ.ศ 2563 - พ.ศ.2564 )ไปสู่การมอบให้ธรรมชาติกลายเป็นตัวละครหลักและกระจกสะท้อนทางจิตวิทยา (Psychological Landscape) ภูมิทัศน์ของณัฐธัญจึงไม่ใช่เพียงฉากหลัง แต่คือตัวตน, ความทรงจำ, และความเร้นลับที่ถูกขยายออกมาสู่งานจิตรกรรม

ผลงานของณัฐธัญตั้งอยู่บนพรหมแดนอันพร่าเลือนที่เชื่อมโยงปรัชญาความงามแบบ Sublime (ความยิ่งใหญ่ที่ผสมด้วยความหวาดหวั่น) และความแปลกประหลาดเหนือจริงแบบ Surrealism ณัฐธัญได้พัฒนาภาษาทางทัศนศิลป์ของตนเองจนเกิดเป็น Eco-Surrealist Visual Language ที่สร้างภาพจำได้อย่างร่วมสมัย

คำถามแรกที่ปรากฎและสร้างแรงปะทะเมื่อได้ชมผลงานของณัฐธัญคือ " เราคือผู้จ้องมองหรือเราต่างหากกำลังถูกจ้องมอง? " ผู้ชมอาจไม่ได้รู้สึกว่ากำลังดูภาพของทุ่งหญ้าหรือต้นไม้ แต่กำลังเดินทางเข้าสู่พื้นที่ไร้ชื่อ ที่กระตุ้นให้เราตั้งคำถามถึงธรรมชาติที่รายล้อมนั้นว่า คืออำนาจที่เข้าใจไม่ได้ หรือคือความทรงจำของเราเอง?

ด้วยเทคนิคการใช้จังหวะแปรงเล็ก ๆ สร้างพื้นผิวของพฤกษา สายลม และบรรยากาศแสงที่สร้างภวังค์ นิทรรศการนี้จึงมอบความงามแบบ Soft-Sublime ที่ทั้งมืดหม่นแต่ก็อ่อนโยน ดึงดูดโอบกอดผู้ชมร่วมให้สำรวจประสบการณ์ความรู้สึกระหว่างรูปธรรมและนามธรรม เพื่อค้นหาความหมายและวางใจในความไม่รู้นั้นอย่างละมุนละไม

ณัฐธัญ เป็นหนึ่งในศิลปินรุ่นใหม่ที่กำลังผลักดัน landscape ซึ่งเป็นงานศิลปะหมวดหมู่ดั้งเดิมให้กลับมามีชีวิตในความหมายร่วมสมัย ด้วยภาษาศิลปะแบบใหม่ที่งดงามละเมียดและห้อมล้อมด้วยห้วงอารมณ์ที่มีมิติลึกซึ้ง

ÉCHO du SILENCE เปิดให้เข้าชมตั้งแต่วันที่ 7 ธันวาคม 2568 จนถึง 11 มกราคม 2569 ชั้น 1 จอยแมน แกลเลอรี กรุงเทพฯ