นิทรรศการนี้เป็นผลจากการสำรวจเรื่องเวลา ความทรงจำ และภาวะอัตวิสัย ผ่านมุมมองเชิงประสบการณ์ที่สอดคล้องกับแนวคิดปรากฏการณ์วิทยา ผู้สร้างสรรค์ให้ความสนใจกับ “สภาวะกึ่งกลาง” ที่ดำรงอยู่ในมิติของพื้นที่ เวลา สังคมและวัฒนธรรม ประสบการณ์ในอดีตมิได้ถูกทิ้งไว้เบื้องหลังหากแต่ยังคงดำรงอยู่และถูกนำมาทบทวน ตีความ และสร้างความหมายใหม่ในปัจจุบันผ่านสัญญะและกระบวนการทางศิลปะ ความทรงจำเชื่อมโยงอดีตและปัจจุบันเข้าไว้ด้วยกัน แปรเปลี่ยนสิ่งที่เคยพร่าเลือนให้ปรากฏชัดเจนขึ้น ผู้สร้างสรรค์ใช้ความทรงจำส่วนบุคคลที่มีลักษณะอัตวิสัย เพื่อตั้งคำถามต่ออัตลักษณ์ทางสังคม และพิจารณาว่าความทรงจำปัจเจกนั้นสามารถเชื่อมโยงหรือสะท้อนความทรงจำร่วมของชุมชนที่สัมพันธ์กับสถานที่และเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่งได้หรือไม่ บางบริบทของเวลาและเหตุการณ์ถูกหยิบยกขึ้นมาวิเคราะห์โดยมิได้ดำเนินไปตามลำดับ แต่สะท้อนการเคลื่อนไหวของจิตสำนึกที่กลับไปมาระหว่างอดีตและปัจจุบัน อันถูกนำมาสร้างความหมายผ่านการหวนกลับของเรื่องเล่าในรูปของความทรงจำ การเคลื่อนไหวของจิตสำนึกที่แกว่งไกวระหว่าง “ครั้งนั้น” และ “บัดนี้” กลายเป็นส่วนสำคัญของการค้นคว้าทางศิลปะ มีการตั้งคำถามต่อธรรมชาติของเวลาและความเปราะบางของการรื้อฟื้นความทรงจำที่เสี่ยงต่อการสูญสลาย พร้อมทั้งนำเสนอการประกอบสร้างเชิงศิลปะของห้วงเวลาซึ่งเหมือนจะเลือนหายไปแล้วให้หวนกลับมาอีกครั้ง
information provided by event organizer



