นิทรรศการ "BANANA GHOST" โดยศิลปิน ตินติน คูเปอร์ สำรวจว่าประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มักถูกจินตนาการผ่านสายตาของคนนอกอย่างไร อีกทั้งสะท้อนว่าผู้คนท้องถิ่นต้องรับมือกับคลื่นนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลไม่สิ้นสุดสู่ชายหาด เมือง และจังหวัดที่อิ่มตัวไปด้วยการท่องเที่ยวอย่างไร
ขณะเดียวกัน นิทรรศการยังชี้ให้เห็นถึงอคติที่ผู้คนท้องถิ่นเองมีต่อผู้มาเยือน ไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวหรือลูกจ้างแรงงานต่างถิ่น จินตนาการและภาพฝังใจเหล่านี้หยั่งรากจากประสบการณ์ชีวิตของศิลปินผู้มีพื้นเพทั้งไทยและอังกฤษ พ่อของเธอทำงานด้านผู้ลี้ภัยและตีพิมพ์งานวิจัยเกี่ยวกับชาวม้ง ทำให้เธอเติบโตในเมืองชายแดนที่มีประวัติผู้ลี้ภัย ได้แก่ เชียงคำในสามเหลี่ยมทองคำ ภูเก็ต เวียงจันทน์ มาลาวี ฟิลิปปินส์ เนปาล อินโดนีเซีย ฝรั่งเศส และอีกหลายแห่ง
การเคลื่อนย้ายระหว่างพื้นที่เหล่านี้ได้หล่อหลอมให้เธอมีความตระหนักอย่างลึกซึ้งต่อวิธีที่วัฒนธรรมถูกมองจากทั้ง “ภายใน” และ “ภายนอก” ซึ่งสะท้อนอยู่ในสายตาที่เฉียบคมและการสังเกตเชิงชั้นของ "BANANA GHOST"
ผลงานในนิทรรศการนี้หยิบแรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมออนไลน์ร่วมสมัย ตั้งแต่มีมสัตว์ วิดีโอ TikTok ของนักท่องเที่ยวที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ฟอรัม “passport bro” ไปจนถึงพาดหัวข่าวไทย ความหลากหลายนี้สะท้อนชีวิตที่ต้องเรียนรู้ภาษาใหม่และรับพฤติกรรมทางวัฒนธรรมที่ไม่คุ้นเคยซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งไม่ใช่เพียงทักษะ แต่คือหนทางการอยู่รอด

ชื่อผลงานหลายชิ้นดึงคำพูดจากต้นทางและนำมาตีความใหม่ ทั้งจากการเมืองเชิงวิเคราะห์อย่าง I’m Ok, Not Ok (จากพาดหัว มติชน เดือนมิถุนายน 2025 ว่าด้วยการเมืองไทย) ไปจนถึงความขี้เล่นอย่าง Me. Unbothered. Moisturised. In my lane, flourishing / ช่วงนี้ไม่ว่าง เป็นร่างทรง… กลม ซึ่งปรากฏในภาพวาดของหมูเด้ง ฮิปโปแคระขวัญใจสังคมออนไลน์
ชื่อเหล่านี้สะท้อนวิธีที่ผู้ชมส่วนใหญ่รับรู้และตีความเหตุการณ์ร่วมสมัย ปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรม และโลกใบกว้าง โดยเฉพาะการนำเสนอเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างโรแมนติไซส์เกินจริง
ภาษาแห่ง “แฟนตาซีเขตร้อน” ปรากฏอยู่ทั่วทั้ง BANANA GHOST และถูกยืดขยายจนบิดเบือนผ่านการทำซ้ำ ดุจเดียวกับธรรมชาติของมีมออนไลน์ เราพบ “passport bros” ที่ร่ำไห้กลางสวรรค์ ร่างกายถูกกักขังอยู่ในภูมิทัศน์เขตร้อนอันดุดัน แวดล้อมด้วยสีสันจัดจ้านและลวดลาย “ชาติพันธุ์” เคียงคู่การอ้างอิงถึงสัตว์ป่าไทย ทั้งเสือ มูเด้ง ฮิปโปแคระชื่อดัง และเหล่างูเลื้อย ขณะเดียวกัน หุ่นเอเลี่ยน “Alf” ก็ปรากฏตัวพร้อมแซนด์วิชแมว เป็นการพาดพิงถึงวัฒนธรรมมีมตะวันตกที่ความน่ารักบรรจบกับความไร้สาระ
ความไร้สาระนี้ยิ่งทวีความหมายเมื่อทับซ้อนกับถ้อยคำของโดนัลด์ ทรัมป์ “พวกเอเลี่ยน มันกินแมว มันกินหมา” คำเหน็บแนมที่ฟังดูเล็กน้อยนี้กลับฟื้นภาพเหมารวมเก่าแก่ซึ่งโยงชุมชนผู้อพยพเข้ากับการบริโภคสัตว์เลี้ยง และในช่วงเวลาเดียวกันนั้นเองก็ปรากฏพาดหัวข่าวในสื่อไทยที่กล่าวหานักท่องเที่ยวในทำนองเดียวกัน ภาพเหล่านี้ร่วมกันก่อร่างเป็นกระจกเงาที่บิดเบือน เผยให้เห็นวิธีที่ทั้งตะวันตกและตะวันออกต่างสร้างความหวาดระแวงต่อวัฒนธรรมที่ไม่คุ้นเคย และผลักพวกเขาไปสู่ความเป็น “อื่น”
กระนั้นก็ตาม นิทรรศการนี้ไม่ได้มุ่งหมายเพื่อกล่าวโทษ หากแต่เพื่อวิเคราะห์กลไกของการฉายภาพจากทุกมุม ว่าความปรารถนาถูกผูกเข้ากับอุดมคติของสถานที่อย่างไร และอำนาจที่ไม่สมดุลเกิดขึ้นอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นการอวดอ้างของ “crypto bros” นักเดินทาง หรือการได้เปรียบจากอัตราแลกเปลี่ยนที่เอื้อประโยชน์
ตลอดทั้งนิทรรศการ สีสันสดใสและโทนขี้เล่นระเบิดออกบนผลงาน ทำหน้าที่ดึงดูดสายตาแต่ในขณะเดียวกันก็กลบความจริงที่เข้มข้นของภูมิภาคที่เปราะบางต่อวิกฤตเศรษฐกิจและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สีสดจัดเหล่านี้สะท้อน “เลนส์เพ้อฝันสีชมพู” ที่ผู้มาเยือนจำนวนมากใช้มองภูมิภาคนี้ เสมือนเป็นสวนสนุกส่วนตัวสำหรับถ่ายภาพอินสตาแกรม ก่อนจากไปโดยไม่ซึมซับประวัติศาสตร์ที่ซ้อนทับ ความจริงปัจจุบัน หรือความซับซ้อนของผู้คน

ใน "BANANA GHOST" ตินตินยกกระจกสะท้อนต่อจินตนาการ ความย้อนแย้ง และแรงเสียดทานที่เกิดขึ้น ณ จุดที่ความปรารถนาจากโลกภายนอกปะทะกับความจริงของท้องถิ่น เผยให้เห็นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ตระหนักรู้ในตนเอง ซับซ้อน และถูกตีความใหม่อย่างไม่รู้จบ
“BANANA GHOST” จัดแสดงระหว่างวันที่ 13 กันยายน – 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568 ณ ชั้น 1 เอส เอ ซี แกลเลอรี ขอเรียนเชิญทุกท่านร่วมงานเปิดนิทรรศการในวันเสาร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2568 เวลา 18.00 – 21.00 น.
เข้าชมโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ผู้เข้าร่วมจะได้สัมผัสผลงานจริงอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งมีโอกาสพบปะพูดคุยกับศิลปิน และแลกเปลี่ยนกับผู้สนใจศิลปะร่วมสมัยด้วยกัน
information provided by event organizer