โปรเจคพิเศษที่ผู้มีความพิเศษจากหลากหลายสาขามาทำผลงานร่วมกัน ทั้งศิลปินนักออกแบบและแบรนด์ชั้นนำของประเทศไทย 3 แบรนด์ ประกอบด้วย DEESAWAT PASAYA และ PREMPRACHA ร่วมกับ ธีรัช อภิพัฒนา และ ปัณฑ์ฉัฐม์ ฉันทภควินท์ ศิลปินอิสระที่มีความพิเศษ (PDD NOS-Pervasive Developmental Disorders) ที่จะมานำเสนอความสนุกในแบบบ้า ๆ บอ ๆ และสร้างแรงกระเพื่อมในการแลกเปลี่ยนความคิดผ่านงานศิลปะแบบจัดเต็ม ที่ noble PLAY
ธีรัช อภิพัฒนา ศิลปินผู้ซึ่งมีพรสวรรค์ในการสร้างสรรค์งานศิลปะรูปแบบนามธรรม (Abstract) ที่มีทีแปรงและโทนสี สะบัดตามอารมณ์อย่างบ้าคลั่งในลักษณะ 2 มิติ และนำมาพัฒนาต่อยอดเป็นงาน 3 มิติ ส่วน ปัณฑ์ฉัฐม์ ฉันทภควินท์ ศิลปินผู้สร้างงานศิลปะผ่านการเขียน จนกลายมาเป็นรูปแบบ Infographic ที่มีความโดดเด่น แตกต่าง และมีลักษณะเฉพาะตัวในการสร้างรหัสลับทางความคิดภายในจิตใจของตนเองได้อย่างน่าสนใจ
ความสามารถเหล่านี้ถูกนำเสนอผ่านแนวคิดของศิลปินภัณฑารักษ์ อริสรา แดงประไพ ที่เป็นผู้สร้างสรรค์และถ่ายทอดผ่านนิทรรศการครั้งนี้ ให้เกิดการต่อยอดและเชื่อมโยงในความแตกต่างของผู้คนจากหลากหลายสาขาที่มาร่วมกันสื่อสารถึงความ “บ้าบอ” ทางอารมณ์ ทางความคิด ผ่านงาน Painting ของธีรัช ที่แสดงออกในความรู้สึกของสีสันที่ตัดกันรุนแรง และลักษณะอักษร Infographic ของปัณฑ์ฉัฐม์ แต่ก็มีความผสานกลมกลืนของอารมณ์ดิบ ๆ ที่ไม่ได้ปรุงแต่งของศิลปินพิเศษ ความบริสุทธิ์ที่แฝงนัยยะเชิงบวก โดยผ่านการตีความตามบริบทในมิติที่หลากหลาย ผสมผสานกับงานที่มีฟังก์ชั่นต่าง ๆ ของแบรนด์ที่มีชื่อเสียง กลายเป็นผลงานที่เกิดจากความบ้า ความอยาก ความต้องการ ความขัดแย้ง ความกลมกลืน ความแตกต่างในความรู้สึกของการอยู่ร่วมกันของความธรรมดาที่ไม่ธรรมดา เปรียบเสมือนกับคนในสังคมที่แตกต่าง แต่ก็สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างกลมกลืนและน่าสนใจ
“บ้าบอ โปรเจค” นำเสนองานในรูปแบบจัดวาง (Installation)
เพื่อสื่อสารและกระตุ้นความรู้สึกอันหลากหลาย การถกเถียงกันของผู้ชม และสามารถเข้ามาร่วมสัมผัสประสบการณ์ความรู้สึกของเด็กพิเศษ และคนพิเศษเหล่านี้ได้ในความ “บ้าบอ” ครั้งนี้ อีกทั้งยังเป็นโครงการนำร่องเพื่อสร้างบทสนทนาต่อยอดให้เด็กพิเศษและคนพิเศษต่าง ๆ ในสังคม ให้สามารถเป็นศิลปินที่ได้มีพื้นที่ในการแสดงออก โดยใช้โอกาสนี้ในการทำงานร่วมกับองค์กรที่มีแรงบันดาลใจและความตระหนักถึงแนวคิดของศิลปินกลุ่มพิเศษ พร้อมสนับสนุนต่อยอดความสามารถและนำผลงานเข้าสู่ตลาดจริงในสังคม เทียบเท่าบุคคลผู้เชี่ยวชาญในวงการศิลปะ ตลอดจนตอกย้ำแนวคิดนี้ให้สังคมมองคนพิเศษเป็นศิลปินผู้มีความสามารถ และสามารถสร้างค่าลิขสิทธิ์ (License Fee) ให้กับพวกเขาได้ในระยะยาว
information provided by event organizer